รายละเอียดของเรื่อง : บ้านเลขที่ 406/3 ถนนพหลโยธิน ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 52000 วันที่ 1 มกราคม 2555 เรื่อง ขอความเป็นธรรมและร้องเรียนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ดิฉัน นาง วรรณบูรณ์ เป้าปะกิจ อาชีพ รับจ้าง ( ปัจจุบันได้ถูกนายจ้างไล่ออกจากงานเรียบร้อยแล้วเนื่องดิฉันเดินทางมาติดต่อราชการที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปางบ่อยครั้ง ) ดิฉันมีความประสงค์ที่จะขอความเป็นธรรมและร้องเรียนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ( ร.ต.ท. วิเชียร ใจสันกลาง ตำแหน่ง พงส. สบ 1) รายละเอียด ดังนี้ . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2554 เวลา 20.30 น. บริเวณหน้าร้านอาหารรสนานา ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม เกิดทะเลาะชกต่อยกัน ( บุตรชายพร้อมพวกไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ชกต่อยกัน ) เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มวัยรุ่น ดังกล่าว ได้แยกย้ายกันไป ต่อมาเวลาผ่านไปไม่นนานกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่ก่อเหตุได้ย้อนกลับมาบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมกับพรรคพวกอีกจำนวนมาก ซึ่งประกอบกับที่บุตรชายของดิฉันพร้อมพวกอีก 2 คน ที่กลับจากนำรถมอเตอร์ไซด์ไปปะยางมาพบเหตุการณ์พอดี ( เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้นคนละเวลากันแต่สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน ) บุตรชายของดิฉันพร้อมพวกเห็นท่าไม่ดีจึงจอดรถมอเตอร์ไซด์ทิ้งไว้และหนีเพื่อเอาตัวรอดจากกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้น และมาทราบภายหลังว่ารถมอเตอร์ไซด์ที่บุตรชายพร้อมพวกที่จอดทิ้งไว้โดนทุบทำลาย และป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์หายไป ต่อมากลุ่มวัยรุ่นผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ว่าโดนทำร้ายร่างกายและโทรศัพท์มือถือได้หายไป เมื่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง โดย ร.ต.ท. วิเชียร ใจสันกลาง ได้รับข้อมูลและพยานหลักฐานคือป้ายทะเบียนรถ จึงนำสืบ ( ซึ่งต่อมาได้จับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมของกลางได้เรียบร้อยแล้ว ) ต่อมา ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ได้โทรศัพท์เรียก ( ถูกชัดทอด ) บุตรชายของดิฉัน ( ซึ่งกำลังเรียนอยู่ ) เดินทางมาให้ปากคำ พร้อมทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ( ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียน ) เมื่อเวลาผ่านไป 20.45 น.( ทางบ้านออกตามหากันให้วุ่นเลย ) บุตรชายของดิฉันได้เดินทางกลับบ้านและได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดิฉันฟัง ซึ่งการกระทำของพนักงานสอบสวนบางขั้นตอนกระทำไม่ถูกต้อง เช่น การให้เช็นต์รับคำสารภาพ “บังคับให้เด็กเซ็นต์”โดยพูดว่า “เอาเขียนให้เหมือน ๆ กัน เรื่องมันจะได้เสร็จๆไป” และการกระทำของ ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ขัดกับ พ.ร.บ. ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 22 พ.ค.2554 เป็นต้นไป การที่ ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ไม่ได้กระทำการตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว คือ การที่ ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ไม่ได้แจ้งให้ บิดามารดาหรือผู้ปกครองทราบเลย ซึ่ง ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 134/2 บัญญัติให้นำบทบัญญัติในมาตรา 133 ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี กล่าวคือ ในการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นเด็กหรือเยาวชน ให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์บุคคลที่เด็กร้องขอและพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าเด็กหรือเยาวชนมีวุฒิภาวะน้อย ทำให้เด็กหรือเยาวชนไม่เข้าใจคำถามของพนักงานสอบสวน อาจตอบคำถามผิดพลาดได้ ประกอบกับตามมาตรา 75 วรรคสาม ยังระบุให้ผู้เป็นบิดามารดา เข้าร่วมรับฟังการสอบสวนตามวรรคสองได้ด้วย แล้วท่าน ร.ต.ท. วิเชียร ใจสันกลาง จึงมิได้ดำเนินการตามที่กล่าวมาข้างต้น ประกอบกับได้มี หนังสือด่วนที่สุดของ รอง ผบช. ฯ รรท ผบช. ภ. 5 ( พล.ต.ต. สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ ) ที่ 0020.173/2863 ลง 21 พ.ค.2554 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ( ตร. เป็นผู้สั่งการ ) ให้ท่าน ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ได้อ่านและศึกษาก่อนนะคะ จากเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ได้ตั้งข้อกล่าวหาบุตรชายของดิฉันว่า ร่วมกันกับพวก ( จำนวน 12 คน ) ทำร้ายร่างกายผู้อื่นและชิ่งทรัพย์ ซึ่งบุตรชายดิฉันไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดเลย เมื่อดิฉันได้สอบถาม ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ถึงเหตุการณ์ ดังกล่าว ก็ไม่ได้รับคำตอบจาก ร.ต.ท. วิเชียร ฯ แต่อย่างใดแถบยังบ่ายเบี่ยง ( นี่คือประเด็นที่ 1 ที่ดิฉันขอความเป็นธรรมและร้องเรียน ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ) ซึ่งต่อมาดิฉันได้ว่าทราบว่าบิดาของผู้เสียหายเป็นผู้มีอิทธิพล เหตุการณ์แบบนี้ ได้ขึ้นกับครอบครัวของดิฉันมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเกิดกับบุตรคนโตของดิฉันซึ่งมีลักษณะเดียวกันเลย ปัจจุบันดิฉันไม่เห็นมีหน่วยงานใดมารับผิดชอบกับอนาคตเด็ก ทำให้เด็กหมดอนาคตปล่อยให้เป็นภาระของผู้ปกครองและเป็นปัญหาของสังคม ดิฉันอยาก ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับครอบครัวของ ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ( ถ้าเป็นตาศรีตาสานะ ) ท่านจะทำอย่างไร คิดแค่ทำให้มันเสร็จเป็นเรื่องๆไปหรือค่ะ อนาคตเด็กนะ ดิฉันไม่มีความรู้จดจำจาก ท่านผู้มีความรู้และศึกษาตามห้องสมุดประชาชน ท่านอย่าคิดนะว่ากฎหมายอยู่ในมือของท่าน ดิฉันขออัญเชิญพระราชดำรัส ของพระเจ้าอยู่ ฯ เพื่อเป็นการเตือนสติของ ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ความว่า “ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสมฤทธิ์ผลเป็นจริงได้ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น” จรรยาบรรณ ของพนักงานสอบสวนของท่าน ร.ต.ท. วิเชียร ฯ หายไปไหน อย่าเอาเด็กไปเป็นแพะรับบาปเลยคะสงสารอนาคตเด็กมัน ท่านเป็นเจ้าพนักงานไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ( นี่คือประเด็นที่ 2 ที่ดิฉันขอความเป็นธรรมและร้องเรียน ร.ต.ท. วิเชียร ฯ ) หากเหตุการณ์ที่ดิฉันได้กล่าวมาข้างต้นหากมิได้รับการแก้ไข ดิฉันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี,ผู้ตรวจการแผ่นดิน, ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ผู้ดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ มูลนิธิปวีณา หงสกุล ดิฉันต้องขออภัยท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย ที่รบกวนเวลาของท่าน ท่านคงมีภารกิจมากซึ่งดูได้จากสื่อต่างๆที่นำเสนอ คดีนี้ยังเป็นเรื่องเล็กๆอยู่ ถ้าเกิดผู้เสียหายเสียชีวิตแหละบุตรชายดิฉันไม่ติดสถานพินิจหรือค่ะ อนาคตเขาจะเป็นอย่างไร ดิฉันยากจนจะเอาเงินทองที่ไหนมาประกันบุตรชายดิฉันขอฝากเรื่องด้วยค่ะ ขอแสดงความนับถือ นาง วรรณบูรณ์ เป้าปะกิจ