“Right to Health : สิทธิสุขภาพ ปราศจากตีตรา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” คำขวัญ “วันเอดส์โลก ปี 2560”

 เอดส์ …. “สิทธิสุขภาพ  ปราศจากตีตรา  สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”

                   วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก    ซึ่งเป็นวาระสําคัญที่ทุกประเทศทั่วโลก    ร่วมกันรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์    ที่ผ่านมาการติดเชื้อเอชไอวีนับว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สําคัญ    และส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมต่อทุกประเทศทั่วโลก    จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติพบว่า    ในปี 2559 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 36.7 ล้านคน    เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.8 ล้านคน    และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ 1 ล้านคน    โดยมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาต้านไวรัสแล้วประมาณ 19.5 ล้านคน

สําหรับประเทศไทย    จากการคาดประมาณจํานวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี    คาดว่าในปี พ.ศ. 2560 มีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ประมาณ 442,127 คน    ผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 5,801 คน   เฉลี่ยวันละ 16 คน    โดยมีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยและรู้สถานะการติดเชื้อตนเองแล้วประมาณ 431,270 คน  คิดเป็นร้อยละ 98 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด    และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่กําลังรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอยู่ประมาณ 302,174 คน  คิดเป็นร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว    ปัจจุบันประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573    โดยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560 – 2573    มีเป้าหมายหลัก 3 ข้อ    คือ    ลดจํานวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000ราย    ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเหลือปีละไม่เกิน 4,000ราย    ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาพลงร้อยละ 90    โดยมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่สําคัญ    คือ    ขยายและจัดชุดบริการผสมผสานการป้องกันและปรับพฤติกรรมเชิงรุก    ทําให้การตรวจการติดเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องปกติ    เตรียมความพร้อมในการจัดบริการตรวจหาการติดเชื้อแบบรู้ผลวันเดียว    และรณรงค์ให้มีการตรวจเลือดหาการติดเชื้อด้วยความสมัครใจได้ฟรีปีละ 2 ครั้งทุกสิทธิการรักษา    ส่งเสริมการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสแต่เนิ่น ๆ ในทุกคนที่ตรวจพบ    รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ติดเชื้อกินยาสม่ำเสมอ    ดําเนินงานเพื่อลดปัญหาจากการรังเกียจ  ตีตรา  และเลือกปฏิบัติ    รวมถึงพัฒนาและนําเทคโนโลยีและ/หรือรูปแบบบริการใหม่ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมในแต่ละกลุ่มเป้าหมายมาเสริมในชุดบริการ

ความท้าทายสําหรับการยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย    คือการทําให้ประชาชนมาตรวจเอชไอวีให้มากขึ้น    และจัดบริการส่งเสริมสุขภาพการป้องกัน    ให้ผู้ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวีจะไม่ติดเชื้อตลอดไป  ผู้ที่ติดเชื้อแล้วก็ได้รับบริการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง  มีคุณภาพชีวิต  ครอบครัวดีและสังคมโดยรวมดีขึ้น    ในขณะที่ภาครัฐส่งเสริมการเข้ารับบริการสุขภาพโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติหรือตีตรา    โดยคํานึงถึงหลัก 5 ประการ    คือ    การเข้าถึงบริการ    การยอมรับ    การจัดให้มีบริการ    คุณภาพของบริการที่ดี    และการไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง    จึงอยากให้ประชาชนและทุกภาคส่วนกระตุ้นให้ท่านที่ประเมินว่าตนเองมีโอกาสเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี    เข้ารับบริการให้คําปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งได้ฟรี    มาร่วมกันยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรากันนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลลำปาง http://www.lph.go.th/lampang/index.php/healthy1/2072-2017-11-17-03-01-305a0d4acb64882

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า