พระพุทธรูปเรืองแสง ที่สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส (ดอยวังเฮือ)
กราบไหว้พระพุทธรูปเรืองแสงองค์เดียวในประเทศไทย
พระพุทธรูปเรืองแสง ประดิษฐานสำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส ดอยวังเฮือ บ้านผาลาด ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง องค์เดียวในประเทศไทย หลวงพ่อเจ้าสำนักเปิดเผยต้องการสร้างความแปลกให้ จึงคิดวิธีผสมสารเรืองแสงขึ้นเคลือบไปที่องค์พระที่หล่อด้วยปูนขนาดใหญ่ ระหว่างก่อสร้างได้อธิษฐานจิตจนสำเร็จ แต่เสียดายที่คนลำปางไม่รู้จักมากนัก
“พระโคตรมะ” นามของพระพุทธรูปปางมารวิชัย เครื่องทรงจักรพรรดิ ที่มีขนาดความสูง 18 ศอก หน้าตักกว้าง 8 ศอก ก่อสร้างด้วยปูนทั้งองค์ และเคลือบด้วยสารเรืองแสงถึง 3 ชั้น ประดิษฐานอยู่ในวิหารของสำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส(ดอยวังเฮือ) เลขที่ 283 บ้านผาลาด ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีหลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ เจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นผู้ดูแล และคิดริเริ่มที่จะสร้างพระพุทธรูปเรืองแสงขนาดใหญ่ขึ้น
หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ เล่าว่า ก่อนหน้านั้น สำนักสงฆ์แห่งนี้เคยมีพระเกจิอาจารย์หลายรูปมาจำพรรษา เช่น หลวงพ่อเมือง (พระครูอะดมเวชวรกุล) พระเกจิชื่อดังของจังหวัดลำปาง เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เจ้าอาวาสวัดท่าแหน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัตินั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน และได้เริ่มสร้างเจดีย์และกุฏิขึ้น เมื่อหลวงพ่อได้มรณภาพลงในปี 2519 หลวงพ่อแสนได้ดูแลมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งประมาณปี 2540 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า อัญเชิญมาบรรจุไว้ในพระเจดีย์ และมีคณะศรัทธาจากหน่วยงานต่างๆ ได้มาทำบุญประจำทุกปี แต่หลังจากที่พระเกจิท่านเหล่านั้นได้มรณภาพลง สถานที่แห่งนี้ก็เริ่มเงียบเหงา มีพระมาธุดงค์ขึ้นไปพักบ้างครั้งคราว แต่ก็ขาดการดูแล จนกระทั่งถูกปล่อยให้รกร้างมาเป็นเวลาหลายสิบปี
และเมื่อปี 2553 ลูกศิษย์ของหลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ ได้นิมนต์ให้มาจำพรรษาที่แห่งนี้ จึงได้ร่วมกับลูกศิษย์และ คณะศรัทธา พัฒนาพื้นที่และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จากนั้นก็เริ่มสร้างพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ จะตั้งประดิษฐาน รอบสำนักสงฆ์ ตั้งแต่ทางขึ้นไปจนถึงภายในวิหารของสำนักสงฆ์ เพื่อที่จะให้เป็นสถานที่ ศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และที่พิเศษในสำนักสงฆ์แห่งนี้ คือพระพุทธรูปองค์ที่ 28 นามว่าพระโคตรมะพุทธเจ้า ที่เรืองแสงได้ ตั้งภายในวิหาร มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตรมะ หรือในภาษาสันสกฤตว่า สิทฺธารฺถ เคาตมะ เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธ สาวกของพระองค์ไม่นิยมออกพระนามโดยตรง แต่เรียกตามพระสมัญญาว่า “ภควา” (พระผู้มีพระภาคเจ้า) ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้หากมองในเวลาปกติจะเห็นเป็นสีขาวนวลออกเหลือง แต่หากปิดประตูหน้าต่างหรือเวลามืดค่ำแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้จะเรืองแสง เป็นสีเขียวมรกตทันที ทำให้เป็นที่ตื่นตาแปลกใจแก่ผู้พบเห็น
หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ กล่าวว่า ได้เริ่มสร้างพระพุทธรูป พระโคตรมะขึ้นเมื่อปี 2554 โดยในตอนนั้นต้องการที่จะสร้างสิ่งที่แปลกใหม่ ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน จึงอาศัยวิชาที่เคยร่ำเรียนมาก่อนที่จะบวชเป็นพระ คิดทำพระพุทธรูปเรืองแสงขึ้น ในตอนนั้นได้อธิษฐานจิตว่า ต้องการสร้างพระพุทธรูป 28 พระองค์ไว้ที่นี่ โดยมีองค์เรืองแสง 1 องค์ ก็ได้มีพระภิกษุสงฆ์จากหลายวัดทั้งต่างจังหวัดและในจังหวัด เดินทางมาช่วยกันก่อสร้างอย่างไม่น่าเชื่อ โดยได้ช่วยกันหล่อปูนเป็นองค์พระขึ้น จนเสร็จสิ้นทั้งหมด 27 องค์ จนถึงองค์สุดท้ายองค์ 28 เมื่อหล่อปูนขึ้นรูปองค์พระพุทธรูปได้ ก็ได้ทำการผสมสารเรืองแสงและเคลือบเข้าไปที่องค์พระพุทธรูปถึง 3 ชั้น จนประสบความสำเร็จ
โดยใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน เคยมีวัดแห่งอื่นๆ ที่ทำเช่นกัน แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จ ซึ่งถือว่า พระโคตรมะ เป็นพระพุทธรูปเรืองแสงองค์เดียวในประเทศไทย จากนั้นก็จะมีคณะศรัทธาที่มาสำนักสงฆ์แห่งนี้มากราบไหว้ประจำอย่างไม่ขาดสายส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างจังหวัด และคนขับรถผ่านทางพลัดหลงเข้ามา เพราะคนในพื้นที่เองยังไม่ทราบว่ามีการบูรณะและสร้างพระพุทธรูปขึ้นในที่แห่งนี้ ทั้งที่อยู่ห่างจากเมืองลำปางไม่ถึง 10 กิโลเมตร ส่วนสำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอขึ้นทะเบียนตั้งเป็นชื่อวัด ซึ่งยังอยู่ในเรื่องการดำเนินการเพื่อพิจารณาต่อไป